จากตอนที่แล้วเราได้พูดถึงข้อดี-ข้อเสีย ของอิฐมวลเบากันไปแล้วนะคะ มีข้อเสนอแนะจากทางผู้อ่านต้องการที่สนใจในเรื่องของฉนวนกันความร้อนเสนอเข้ามา เราก็พร้อมสนองนะคะ ^^ วันนี้มาทำความรู้จักกับฉนวนกันความร้อนที่ใช้ภายในบ้านกันเลย
จากวิกฤตการณ์โลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี ดวงอาทิตย์ที่สาดแสงใส่หลังคาอยู่ทุกวัน ก็ยิ่งแผดเผาให้ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านมากขึ้นทุกที การติดฉนวนกันความร้อนหลังคา จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อบ้านทุกหลังในยุคนี้ แต่วัสดุฉนวนกันความร้อนก็มีหลายแบบ
เจ้าของบ้านและผู้ออกแบบบ้านจึงควรเลือกฉนวนกันความร้อนให้เหมาะสมกับบ้านและงบประมาณของตนเอง และด้วยข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับฉนวนกันความร้อนหลังคาต่อไปนี้ การเลือกฉนวนให้ถูกใจ ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ฉนวนกันความร้อนหลังคาคืออะไร
ฉนวนกันความร้อน คือ วัสดุที่ใช้ป้องกันไม่ให้ความร้อนทะลุจากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง โดยมักจะติดไว้ใต้หลังคา บนฝ้า หรือในผนัง ฉนวนกันความร้อนหลังคาจึงมีหน้าที่ในการดูดซับและป้องกันความร้อนจากหลังคา หรือต้านทานความร้อนให้เหลือน้อยที่สุดก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน
และยังมีแผ่นฉนวนกันความร้อนอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แผ่นสะท้อนความร้อน ซึ่งใช้วิธีป้องกันความร้อนที่แตกต่างกัน โดยเน้นการสะท้อนคลื่นความร้อนออกจากตัวบ้านเป็นหลัก
รูปแบบการติดฉนวนกันความร้อนหลังคา
1. ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่น
ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นเป็นฉนวนกันความร้อนสำเร็จรูปที่ผลิตจากวัสดุหลากหลายประเภท มีลักษณะเป็นแผ่นที่มีความอ่อนตัว สามารถดัดโค้งให้เข้ากับโครงสร้างได้ จึงง่ายต่อการติดตั้ง ไม่ว่าจะติดฉนวนกันความร้อนหลังคา ทั้งเหนือหรือใต้แปรองแผ่นหลังคา หรือปูฉนวนกันความร้อนบนฝ้าก็ตาม ขอเพียงฉนวนที่ใช้มีน้ำหนักเบา
2. ฉนวนกันความร้อนแบบพ่น
ฉนวนกันความร้อนแบบพ่นเป็นการนำวัสดุฉนวนกันความร้อนที่ละลายเป็นของเหลว พ่นทับบนพื้นผิวที่ต้องการป้องกันความร้อน โดยพ่นทับได้แทบทุกพื้นผิว และฉนวนบางชนิดยังใช้พ่นพื้นผิวนอกอาคารได้ด้วย จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีความซับซ้อน หรือยากต่อการปูฉนวนเป็นแผ่น แต่ต้องพ่นฉนวนโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีเครื่องมือเฉพาะทางเท่านั้น
การเลือกประเภทฉนวนกันความร้อนหลังคา
ฉนวนกันความร้อนมีให้เลือกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและวัสดุที่ใช้ผลิตฉนวน โดยวัสดุฉนวนกันความร้อนหลังคาที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง สามารถดูได้จากตาราง ดังนี้
วัสดุฉนวนกันความร้อน | ข้อดี | ข้อเสีย | ราคา |
ฉนวนใยแก้ว | – ทนความร้อนสูง – ป้องกันความร้อนได้ดี – ป้องกันเสียงได้ดี – ติดไฟได้ แต่ไม่ลามไฟ | – มีความหนาที่สุด – หากถุงขาดรั่ว ใยแก้วจะเป็นอันตรายต่อคนที่แพ้ | ราคาปานกลาง |
ฉนวนอลูมิเนียมฟลอยด์ | – เบาและบางที่สุด – สะท้อนรังสียูวีได้ดี – มีความเหนียว เข้ารูปง่าย – ไม่ติดไฟ ไม่ลามไฟ | – ไม่ป้องกันเสียง – ต้องปูติดใต้หลังคาจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด | ราคาถูกที่สุด |
ฉนวนโฟมโพลีเอธิลีน(PE) | – น้ำหนักเบา – มีความเหนียวและแน่น – ป้องกันความร้อนได้ดี – ทนสารเคมีและความชื้น | – ติดไฟง่าย ลามไฟง่าย – เกิดก๊าซที่เป็นอันตรายเมื่อถูกเผาไหม้ | ราคาถูก |
ฉนวนโฟมโพลีสไตรีน(PS) | – น้ำหนักเบามาก – ทนต่อแรงกดทับ – ไม่ดูดซับความชื้น – ติดตั้งร่วมกับวัสดุอื่นได้ เช่น ติดกับฝ้ายิบซัม | – ติดไฟง่าย ลามไฟง่าย – ดัดงอไม่ได้ จึงแตกหักง่ายเหมือนกล่องโฟม | ราคาถูก |
ฉนวนโฟมโพลียูรีเทน(PU) | – มีทั้งฉนวนแผ่นและพ่น – ยึดเกาะได้กับทุกพื้นผิว – ป้องกันน้ำและการรั่วซึม – ป้องกันทั้งความร้อนและ ความเย็น | – ติดไฟง่าย ลามไฟง่าย – เปลี่ยนรูปได้เมื่อถูกความร้อนสูง | ราคาสูง |
ฉนวนเยื่อกระดาษ | – มีทั้งฉนวนแผ่นและพ่น – ป้องกันความร้อนได้ดี – ป้องกันเสียงได้ดี – เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | – ไม่ทนต่อน้ำและความชื้น – มีโอกาสหลุดร่วงและยุบตัว หากควบคุมความ หนาแน่นขณะพ่นไม่ดีพอ | ราคาปานกลาง |
ตารางข้างต้นเป็นเพียงคุณสมบัติพื้นฐานของฉนวนกันความร้อนหลังคาแต่ละประเภท โดยผู้ผลิตแต่ละราย ยังมีการเพิ่มคุณสมบัติให้ฉนวนมีคุณภาพยิ่งขึ้น เช่น ฉนวนโฟมที่ผสมสารป้องกันการลามไฟ หรือฉนวนโฟมที่ปิดผิวด้วยฉนวนอลูมิเนียมฟลอยด์อีกชั้น
ฉนวนกันความร้อนจึงมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด และมีราคาแตกต่างกันตามคุณภาพของวัสดุและคุณสมบัติที่ใส่เพิ่มเติม
เมื่อทราบข้อมูลทั้งหมดแล้วก็จะพบว่า ฉนวนกันความร้อนหลังคาแต่ละแบบต่างก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน และไม่มีฉนวนกันความร้อนชนิดใดที่ดีที่สุด จึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งานและงบประมาณมากกว่า และไม่จำกัดด้วยว่าจะต้องใช้ฉนวนเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น
ในตอนหน้าจะเป็นความรู้ดีๆเกี่ยวกับอะไรรอติดตามกันได้นะคะ หรือถ้าอยากให้แชร์เนื้อหาดีๆเกี่ยวกับอะไร สามารถแจ้งเรื่องในช่องทางการติดต่อ และข้อเสนอแนะได้เลยค่า
ขอบคุณบทความดีๆที่มีประโยชน์จากเว็บไซต์ www.ddproperty.com เป็นอย่างสูงนะคะ